Login  
Image
โปรโมชั่นผ่อนชำระด้วยบัตรเครดิต ผ่อน 0 % นาน 6 เดือน (*เมื่อช้อปสินค้าครบ 8,000 บาท)

เรามักจะดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษเมื่อต้องออกนอกบ้าน เดี๋ยวนี้เราใส่หน้ากากอนามัยกันเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อกลับถึงบ้าน พื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดสำหรับเรา อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะสารก่อภูมิแพ้รอเราอยู่ที่บ้านนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น ไรฝุ่น เชื้อรา แมลง สัตว์เลี้ยง แล้วจะมี วิธีจัดบ้านให้ห่างไกลภูมิแพ้ อย่างไรได้บ้าง

โรคภูมิแพ้ เกิดจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าไปในร่างกาย ทำให้มีอาการแพ้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูก น้ำตาไหล คันรอบดวงตา ระคายเคืองทั่วใบหน้า มีผดผื่นคันแดงตามผิวหนัง ผิวหนังลอกอักเสบ หรืออาจแพ้รุนแรงถึงขั้นท้องร่วง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก

สาเหตุของภูมิแพ้
พันธุกรรม ภูมิแพ้ อาจเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ถ้ามีพ่อและแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ก็มีโอกาสที่ลูกๆ จะมีอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน

สภาพแวดล้อม อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือ สภาพแวดล้อม หรือจากสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ไรฝุ่น แบคทีเรีย ขนสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา

สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน
สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) คือ สารที่เมื่อร่างกายบางคนได้รับแล้ว อาจโดยการสัมผัสกับผิวหนัง หาย ใจ ได้กลิ่น หรือเข้าสู่ร่างกาย สารเหล่านี้จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย ก่อให้ร่างกายเกิดอาการของโรคภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในบ้าน มีอะไรบ้าง

เชื้อรา สามารถพบได้ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน เชื้อราในบ้านมักพบที่บริเวณมืดๆ มีความชื้น เช่นห้องน้ำ ห้องครัว เมื่อหายใจเอาสปอร์ของราเข้าไป ก็จะเกิดอาการคัดจมูก เนื่องจากสปอร์มีขนาดเล็กมาก มันอาจจะเล็ดรอดเข้าในปอดทำให้เกิดโรคหอบหืด

ไรฝุ่น เป็นแมลงขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ห้องนอน ที่นอน หมอน พรม เฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ไรฝุ่น ชอบอาศัยในที่อับชื้น และอบอุ่น มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่าย และลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ เป็นสาเหตุสำคัญของโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้

แมลง เศษแมลงในบ้านรวมทั้งแมลงสาบ อาจเข้าร่างกายคนโดยการสูดหายใจเข้าไป ซึ่งมักก่อโรคภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหืด จมูกอักเสบจากภูมิแพ้

สัตว์เลี้ยง หลายคนคิดว่าแพ้เศษขนจาก ขนสัตว์เลี้ยง เช่น ขนสุนัข ขนแมว แต่สารสำคัญที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ คือ โปรตีนที่อยู่ในเศษขี้ไคล น้ำลายและฉี่ ซึ่งสัตว์เลี้ยงหลายชนิดมีโปรตีนเหล่านี้ ทำให้หลายคนมีอาการภูมิแพ้หลังจากจับ หรือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง

ละอองเกสรจากหญ้า และวัชพืช
บ้านที่มีสวน ปลูกต้นไม้ไว้ อาจจะเป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ได้ หากแพ้ละอองเกสรจากพืช เพราะโดยปกติละอองเกสรจะลอยอยู่ในอากาศนอกบ้าน แล้วถูกลมพัดมาติดตามมุ้งลวดหน้าต่าง หรือเข้ามาในบ้าน

วิธีจัดบ้านให้ห่างไกลภูมิแพ้

Advertisement
เลือกเฟอร์นิเจอร์ไม่มีขา มีบานเปิด-ปิดได้ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบไม่มีขา เพราะถ้าตู้ เตียง วางแนบสนิทกับพื้นจะช่วยลดปัญหาฝุ่นสะสมได้ แต่ถ้าอยากได้เฟอร์นิเจอร์ แบบขาลอย ควรมีขาสูงพอให้อุปกรณ์ดูดฝุ่น หรือไม้ม็อบยื่นเข้าไปทำความสะอาดใต้เฟอร์ฯ ได้ ตู้เก็บของหรือตู้โชว์ควรเป็นแบบที่มีบานปิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าไปจับตามสิ่งของที่วางบนชั้น

เลี่ยงการใช้พรมจัดบ้าน พรม มักได้รับความนิยมในประเทศเมืองหนาว เพราะช่วยให้พื้นอบอุ่นขึ้นได้ แต่สำหรับเมืองร้อนแบบบ้านเราไม่จำเป็นต้องปูพรมในบ้าน เพราะนอกจากจะไม่เหมาะกับสภาพอากาศแล้ว พรม ยังเป็นที่สะสมฝุ่นละออง ไรฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้อื่นๆ ด้วย แต่ถ้าอยากแต่งห้องด้วยพรม อาจจะเลือกใช้ในพรมในห้องที่ติดแอร์ แล้วก็ต้องหมั่นซัก ดูดฝุ่น ทำความสะอาดเป็นประจำ

จัดบ้านให้แสงแดดส่องเข้ามาในบ้าน แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน แล้วยังช่วยให้บ้านไม่อับชื้น จึงควรมีหน้าต่างที่เปิดม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาด้วย ไม่ควรจัดของ หรือเฟอร์นิเจอร์ให้บังหน้าต่าง และอาจจะเปิดหน้าต่างให้อากาศในห้องได้ถ่ายเท ได้ระบายบ้าง

เลือกใช้ผ้าม่าน ปลอกโซฟาซักได้ ผ้าม่าน และโซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่อาจจะลำบากในการทำความสะอาด หลายบ้านจึงไม่ยอมทำความสะอาด ซึ่งทำให้เป็นแหล่งสะสมของสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้ วิธีจัดบ้านให้ห่างไกลภูมิแพ้ คือควรเลือกโซฟาที่มีปลอกสามารถถอดออกมาซักได้ ส่วนผ้าม่านถ้าไม่อยากเอามาซัก อาจจะเลือกม่านแบบมูลี่ที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายแทน

เลือกที่นอนวัสดุสังเคราะห์ ที่นอนควรจะเปลี่ยนเป็นที่นอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ควรใช้นุ่น ฟองน้ำ ขนนก ผ้าขนสัตว์ ผ้าสำลี นุ่น อาจจะทำให้เกิดสะสมสารก่อภูมิแพ้ และฟุ้งกระจายในอากาศ ซึ่งเมื่อสูดดมเข้าไป อาจทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้

ไม่สะสมของที่เก็บฝุ่น สิ่งของที่มีขนฟู เช่น พรมปูพื้น ตุ๊กตา หรือพวกข้าวของที่มีขน ถือเป็นแหล่งเก็บฝุ่นชั้นดี ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันการกักเก็บฝุ่น หรืออาจจะเลือกเป็นแบบขนสั้นแทน เพราะจะช่วยลดการเก็บฝุ่นได้มากกว่า และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วยค่ะ

จัดโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง ถ้าแพ้ขนแมว ขนสุนัข ขนสัตว์ ต้องจัดที่ให้อยู่เฉพาะ ไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นไปทั่ว หรือมานอนด้วยในห้องนอน

ซักที่นอน หมอน ม่าน อย่าให้ฝุ่นจับ เครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย เชื้อโรค เหงื่อ และเซลล์ผิวหนังที่หลุดล่วง ทำให้ไรฝุ่นเติบโตได้ดี จึงควรดูแลให้สะอาดปราศจากฝุ่นอยู่เสมอ ควรซักด้วยเครื่องซักผ้าโดยเลือกโหมดน้ำร้อน ด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิอย่างน้อย 55 องศาเซลเซียส เป็นอุณหภูมิที่สามารถฆ่าไรฝุ่นได้

ล้างแอร์เป็นประจำ การให้ช่างมาล้างแอร์ปีละ 1-2 ครั้งนั้นคงไม่เพียงพอ แต่ควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรอง หรือ ฟิลเตอร์เป็นประจำทุก 1-2 เดือน ซึ่งสามารถทำได้เอง ไม่ต้องเรียกช่าง ส่วนพัดลมที่มักมีฝุ่นเกาะตรงตะแกรง และใบพัดก็ควรล้างบ่อยๆ

ใช้เครื่องฟอกอากาศ หรือเครื่องกรองอากาศ เครื่องรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศที่ละเอียดขึ้น สามารถช่วยให้ผู้ป่วยหอบ มีแพ้ละอองเกสรของหญ้า หรือต้นไม้อื่นๆ มีอาการน้อยลงได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Sanook Health